พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2025/26 เรียกได้ว่าเป็นฤดูกาลที่แข้งใหม่ตบเท้าเข้ามาเล่นในลีกสูงสุดของอังกฤษกันอย่างมากหน้าหลายตาไม่ว่าจะเป็น ฟลอเรียน เวียตซ์, วิคตอร์ เยอเคเรส และ เบนยามิน เชชโก้ เป็นต้น
แน่นอนว่ายังมีแข้งใหม่ที่น่าสนใจอีกมากมายที่ยังไม่ได้กล่าวถึง ซึ่งวันนี้ทาง The Sporting News Thailand ก็อยากจะพาแฟนบอลทุกท่านไปดูกันว่า 10 แข้งใหม่ พรีเมียร์ลีก ที่น่าจับตามองในฤดูกาล 2025/26 จะเป็นใครกันบ้าง และพวกเขาจะน่าสนใจแค่ไหน ไปติดตามกันได้ที่นี่เลย
10 แข้งใหม่พรีเมียร์ลีกน่าจับตา ฤดูกาล 2025/26
ฟลอเรียน เวียตซ์ (กองกลาง) : ลิเวอร์พูล
แน่นอนว่าแข้งใหม่ พรีเมียร์ลีก ที่น่าจับตามองรายแรกนั้นคงหนีไม่พ้น ฟลอเรียน เวียตซ์ ของ ลิเวอร์พูล ที่ย้ายเข้ามาด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 100 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4.4 พันล้านบาท) แบบไม่รวมแอด-ออนส์ ซึ่งนอกจากจะต้องกดดันเรื่องค่าตัวแล้ว การที่เข้ามาอยู่ในทีมที่ต้องป้องกันแชมป์นั้นก็ต้องโชว์ฟอร์มให้ดีเลยทีเดียว
สิ่งที่น่าสนใจในตัวกองกลางทีมชาติเยอรมันรายนี้คือถ้าหากฟอร์มดีตั้งแต่แรก ทัพหงส์แดงจะมีแนวรุกที่น่ากลัวอย่างมาก เพราะเขาเองสามารถสร้างสรรค์เกมไปให้แนวรุกอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โคดี้ กัคโป และแข้งใหม่อีกหนึ่งรายอย่าง ฮูโก้ เอกิติเก้ ได้ รวมถึงตัว เวียตซ์ เองก็สามารถทำประตูได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นถ้าหากเกมตัน ๆ แนวรุกคนอื่นยังยิงกันไม่ได้ เวียตซ์ ก็เป็นนักเตะที่สามารถตัดสินเกมได้เช่นกัน
วิคตอร์ เยอเคเรส (กองหน้า) : อาร์เซนอล
ผลงาน 97 ประตู จาก 102 นัดที่ลงเล่นให้กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ในทุกรายการ เป็นคำตอบที่ดีว่าทำไม อาร์เซนอล จึงดึงตัวกองหน้าชาวสวีเดนรายนี้มาร่วมทีม ดังนั้น วิคตอ เยอเคเรส จึงเป็นอีกหนึ่งแข้งใหม่ของ พรีเมียร์ลีก ที่น่าจับตามองในปีนี้ เพราะทางด้านทัพปืนใหญ่ก็ตามหาศูนย์หน้าตัวเป้าสไตล์นี้มานานเช่นกัน
ซึ่งทาง เยอเคเรส นั้นมีรูปร่างที่สูงใหญ่ สามารถชนกับกองหลังของฝ่ายตรงข้ามได้เป็นอย่างดี และแน่นอนว่าประสิทธิภาพในการทำประตูของเขาคือเรื่องเด่นที่สุดดังสถิติที่กล่าวไปข้างต้น โดยต้องมาดูกันอีกทีว่าเมื่อมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก แล้ว เยอเคเรส จะสามารถทำประตูได้มากมายเหมือนตอนที่อยู่ในลีกโปรตุเกสได้หรือไม่
เบนยามิน เชชโก้ (กองหน้า) : แมนฯ ยูไนเต็ด
กองหน้าชาวสโลวีเนียรายนี้ไม่ใช่แค่หน้าจับตามองใน พรีเมียร์ลีก แต่เขายังเป็นหนึ่งในกองหน้าดาวรุ่งที่น่าจับตามองที่สุดในยุโรป ซึ่งบางทีก็มากกว่า ราสมุส ฮอยลุนด์ กองหน้าที่อยู่กับทีมมาก่อนด้วยซ้ำ โดยตัวของ เชชโก้ นั้นอยู่เล่นในศึก บุนเดสลีกา กับ แอร์เบ ไลป์ซิก มาถึง 2 ปีเต็ม ดังนั้นเรื่องการเล่นในลีกใหญ่จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าห่วง
แต่สุดท้ายก็ต้องมารอดูกันอีกทีว่าเมื่อ เชชโก้ ลงเล่นในศึก พรีเมียร์ลีก เขานั้นจะช่วยทีมทำประตูได้ดีแค่ไหน และดีพอจะเป็นตัวหลักได้หรือไม่ เพราะทางด้าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็คงจะไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเดิมเหมือนกับตอนที่ได้ตัว ฮอยลุนด์ มาเมื่อ 2 ปีก่อน
รายาน แชร์กี (กองกลาง) : แมนฯ ซิตี้
กองกลางชาวฝรั่งเศสรายนี้เป็นตัวแทนโดยตรงของ เควิน เด บรอยน์ ที่ออกจากทีมไปในซัมเมอร์นี้ ซึ่งทาง รายาน แชร์กี นั้นนอกจากความสามารถที่โดดเด่นแล้ว ในเรื่องของตำแหน่งที่ลงเล่นได้ก็ถือว่าหลากหลาย เพราะนอกจากจะลงเล่นกลางรุกเป็นหลัก เขาเองก็โยกไปเล่นได้ทั้งปีกซ้ายและขวา รวมไปถึงกองหน้าได้อีกด้วย
โดยบทพิสูจน์ของเขากับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั้นก็คือการที่จะดีพอเป็นตัวแทนของ เดอ บรอยน์ ได้หรือไม่ ซึ่งก็แน่อนว่าต้องให้เวลาเป็นตัวตัดสิน และถ้าหากเขาทำได้ดีอย่างต่อเนื่อง ทางด้านทัพเรือใบสีฟ้าก็จะมีกองกลางเพลย์เมกเกอร์ระดับเดียวกับ เดอ บรอยน์ ไว้ใช้งานได้ถึง 10 ปีเป็นอย่างน้อยเลยทีเดียว
เอสเตเวา (ปีก) : เชลซี
เพียงแค่นัดแรกที่ลงเล่น ปีกชาวบราซิลรายนี้ก็โชวฟอร์มให้เห็นแล้วว่าเขามีดีแค่ไหนที่จะอยู่ในชุด 11 ตัวจริงของทัพสิงห์บลู โดยทาง เอสเตเวา เป็นหนึ่งในผู้ทำประตูนัดอุ่นเครื่องที่ เชลซี เอาชนะ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ไป 2-0 ทำให้ฤดูกาลนี้ตำแหน่งปีกขวาที่ตัวจริงยังเป็นของ เปโดร เนโต้ ก็ดูจะไม่แน่นอนอย่างที่คิด
นอกจากนี้ เอสเตเวา ยังสามารถโยกตัวเองไปเล่นเป็นกลางตัวรุกได้อีกด้วย ซึ่งก็เท่ากับว่า เชลซี สามารถเลือกใช้งานปีกวัย 18 ปีรายนี้ได้อย่างหลากหลาย และยังไม่ต้องกังวลเรื่องอาการบาดเจ็บในอนาคตของทั้ง เนโต้ และ โคล พาลเมอร์ อีกด้วย เพราะ เอสเตเวา จะเป็นส่วนเติมเต็มในจุดนั้นให้เอง
จอห์น อาริอาส (กองกลาง) : วูล์ฟแฮมป์ตัน
ตัวแทนโดยตรงของ มาเธอุส คุนญา ที่ย้ายไปเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งหนึ่งในสถิติที่ทำให้ วูล์ฟแฮมป์ตัน ตัดสินใจคว้าตัว จอห์น อาริอาส มาร่วมทีมก็คือเขาเป็นนักเตะที่สร้างสรรค์โอกาสได้มากที่สุดในศึกชิงแชมป์สโมสร 2025 ที่ผ่านมา
โดยกองกลางชาวโคลอมเบียนอกจากจะมาเป็นตัวแทนของ คุนญา ในเรื่องของตำแหน่งการเล่นแล้ว อาริอาส นั้นก็ยังเลือกสวมเสื้อเบอร์ 10 ที่ยังเป็นเบอร์ของ คุนญา อีกด้วย ทำให้น่าสนใจมากว่าเขาจะทำได้ดีแค่ไหนกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน และจะทำให้เหล่าแฟนบอลลืม คุนญา ได้หรือไม่ ซึ่งก็ต้องมารอดูอีกทีในฤดูกาลที่จะถึงนี้
ดาน เอ็นดอย (ปีก) : น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เสีย แอนโธนี อีลังก้า ไปให้กับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ทำให้ทัพเจ้าป่าต้องไปดึงตัว ดาน เอ็นดอย มาจาก โบโลญญา ด้วยค่าตัวสูงถึง 42 ล้านยูโร (ประมาณ 1.5 พันล้านบาท) ดังนั้นปีกชาวสวิสเซอร์แลนด์รายนี้จึงถูกคาดหวังว่าจะมาเป็นตัวแทนของ อีลังก้า แทบจะทันที
โดยสถิติใน กัลโช เซเรีย อา ฤดูกาลที่ผ่านมากับ โบโลญญา เอ็นดอย ทำไปทั้งหมด 8 ประตู กับอีก 4 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 30 นัด ซึ่งเมื่อเทียบกับ อีลังก้า เมื่อฤดูกาลที่แล้วก็ถือว่าน่าสูสี แต่ก็ต้องมารอดูกันอีกทีว่าเมื่อลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก เอ็นดอย นั้นจะทำได้ดีเหมือนกับตอนที่อยู่กับ โบโลญญา หรือไม่
มาลิค เจา (กองหลัง) : นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
ทัพสาลิกาดง เสริมแกร่งให้กับแนวหลังด้วยการไปดึงตัว มาลิค เจา มาจาก เอซี มิลาน โดยเหตุผลที่ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ยังคงเสริมกองหลังนั้นเป็นเพราะว่าอาการบาดเจ็บของทั้ง ฟาเบียน แชร์ และ สเวน บอตมัน นั้นดูจะเกิดขึ้นบ่อย ๆ สลับกันไปในฤดูกาลที่ผ่านมา ทำให้การมาของ เจา นั้นจะช่วยแบ่งเบาภาระตรงนี้ไปได้
นอกจากนี้กองหลังชาวเยอรมันรายนี้ยังเป็นผู้เล่นที่หลายทีมจับตามองมาก่อนหน้าที่จะลงเอยกับ นิวคาสเซิล ทำให้ เจา เองจึงเป็นกองหลังที่น่าจับตามองอย่างมากสำหรับ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ ซึ่งเขาจะทำได้ดีกับ นิวคาสเซิล มากแค่ไหน และจะยึดตัวจริงคู่กับ แดน เบิร์น ได้หรือไม่ก็ต้องมารอติดตามกันอีกที
บาโฟเด ดียากีเต้ (กองหลัง) : บอร์นมัธ
บอร์นมัธ เสียคู่กองหลังอย่าง ดีน เฮาเซน และ อิลเลีย ซาบาร์นยี ไปในตลาดเดียวกัน ทำให้พวกเขาต้องขยับคว้าตัว บาโฟเด ดียากีเต้ กองหลังจาก ลีลล์ มาร่วมทีม ทำให้นี่จะเป็นบทพิสูจน์ว่ากองหลังวัย 24 ปีรายนี้จะทำได้ดีเหมือนกับ ดีน เฮาเซน และ อิลเลีย ซาบาร์นยี หรือไม่
โดยสิ่งที่โดดเด่นของ ดียากีเต้ นั้นนอกจะเล่นเซ็นเตอร์แบ็คได้เป็นอย่างดีแล้ว ตัวเขาเองก็ยังโยกไปเล่นทั้งแบ็คซ้ายและขวาได้อีกด้วย ซึ่งนี่จะเป็นจุดแข็งทำให้เขาคอยซัพพอร์ททีมได้เป็นอย่างดีในเวลาที่มีผู้เล่นคนอื่นในทีมบาดเจ็บ ส่วนที่เหลือในตอนนี้ก็มารอดูแค่ฟอร์มการเล่นว่าเขาจะทำได้ดีแค่ไหนกับทีมใหม่และลีกใหม่
อาเดรียง ทรุฟแฟร์ (กองหลัง) : บอร์นมัธ
แน่นอนว่านอกจากจะเสียคู่กองหลังไปแล้ว บอร์นมัธ นั้นยังเสีย มิลอส เคอร์เคซ แบ็คซ้ายจอมบุกไปให้กับ ลิเวอร์พูล อีกหนึ่งราย เป็นเหตุให้พวกเขาต้องดึงตัว อาเดรียง ทรุฟแฟร์ มาร่วมทีมจาก แรนส์ แน่นอนว่าแบ็คซ้ายชาวฝรั่งเศสรายนี้ก็รอพิสูจน์ฟอร์มของตัวเองไม่ต่างจาก ดิยากีเต้ เช่นกัน เพราะการจะโชว์ฟอร์มให้ดีเหมือนอย่าง เคอร์เคซ นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยดีเดียว
สำหรับ อาเดรียง ทรุฟแฟร์ เขาเองถือว่าเป็นหนึ่งในแบ็คซ้ายที่น่าหลายสโมสรนั้นจับตามองมาก่อนหน้านี้ โดยทาง แอสตัน วิลลา และโอลิมปิก มาร์กเซย ก็เคยสนใจในตัวของ ทรุฟแฟร์ ก่อนที่เขาจะมาลงเอยกับบอร์นมัธ และสุดท้ายนี้ก็ต้องมารอดูกันว่า ทรุฟแฟร์ จะโชว์ฟอร์มได้ดีแค่ไหนในศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลที่จะถึง