“สวรรค์บนดิน” อาจจะเป็นคำเปรียบเปรยที่ดีที่สุดสำหรับ เฮนนิงสแวร์ สเตเดียม สนามฟุตบอลขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านชาวประมงในหมู่เกาะแห่งหนึ่งของนอร์เวย์
แม้มันไม่ใช่สนามของสโมสรยักษ์ใหญ่ แต่สิ่งที่ทำให้มันกลายเป็นหมุดหมายของผู้คนทั่วโลก คือทิวทัศน์อันงดงามที่รายล้อมสนามแบบ 360 องศา
อย่างไรก็ดี สนามแห่งนี้ไม่ได้มีดีแค่บรรยากาศรอบข้างเท่านั้น แต่มันยังมีความสำคัญแก่ผู้คนที่นี่โดยเฉพาะในด้านวิถีชีวิต
ติดตามเรื่องราวไปพร้อมกัน
สนามฟุตบอลที่สวยที่สุดในโลก
ไกลออกไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของนอร์เวย์ บริเวณวงกลมอาร์คติก ในหมู่เกาะโลโฟเทน มีหมู่บ้านชาวประมงที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกอย่าง “เฮนนิงสแวร์” ตั้งอยู่
หมู่บ้านชาวประมงแห่งนี้ ไม่ได้เป็นที่รู้จักเพราะพวกเขาส่งออกปลาที่สุดในนอร์เวย์ หรือมีอาหารทะเลเลิศรส แต่เป็นเพราะพวกเขามี เฮนนิงสแวร์ สเตเดียม ที่ถูกขนานนามว่า “สนามฟุตบอลที่วิวสวยที่สุดในโลก”
เฮนนิงสแวร์ สเตเดียม ตั้งอยู่บริเวณด้านท้ายของเกาะ ล้อมรอบไปด้วยภูเขาสูงที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ สลับกับผืนน้ำทะเลสีน้ำเงินเข้มที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา
ความสวยงามดังกล่าว ทำให้สนามแห่งนี้ สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก มาสัมผัสบรรยากาศแบบ “สวรรค์บนดิน” อย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกที
“โลโฟเทน มีกิจกรรมมากมายให้ได้ทำ มันมีสถานที่สำหรับปีนเขา พอหน้าหนาวก็มีนักสกีจำนวนมากมาที่นี่ แต่เหมือนกับทุกที่ในโลก ฟุตบอลคือกีฬาหลักของที่นี่” ซานเดอร์ ไลด์ เอ็ดวาร์ดเซน นักข่าวจาก Lofoposten AS กล่าวกับ BBC
“คุณสามารถเจอแฟนบอลที่หลงใหลในฟุตบอล โดยเฉพาะทีมจากอังกฤษ”
เฮนนิงสแวร์ สเตเดียม เป็นสนามฟุตบอลประจำหมู่บ้าน เฮนนิงสแวร์ ที่มีประชากรราว 500 คน โดยพื้นสนามพวกเขาใช้หญ้าเทียม เนื่องมาจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นเกือบทั้งปี ขณะเดียวกันมันไม่มีแม้แต่อัฒจันทร์ ทำให้ต้องดูเกมข้างสนามด้วยการยืนดูแทน
“สิ่งที่พิเศษที่สุดเกี่ยวกับสนามเฮนนิงสแวร์คือมันอยู่ในมหาสมุทร และตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวบนเกาะแห่งนี้” เอ็ดวาร์ดเซน อธิบาย
“ผู้คนในโลโฟเทนภูมิใจในสนามแห่งนี้ มันเป็นสถานที่ที่สวยงามสำหรับเล่นฟุตบอล”
อย่างไรก็ดี สนามแห่งนี้ ไม่ได้มีไว้โชว์นักท่องเที่ยวเท่านั้น
ความบันเทิง 24 ชั่วโมง
ด้วยความที่เกาะโลโฟเทน ตั้งอยู่ใกล้กับขั้วโลกเหนือ ทำให้ผู้คนที่นี่ต้องเผชิญกับความเป็นอยู่ที่ลำบากไม่ว่าจะเป็นอากาศที่เย็นยะเยือก หิมะที่ตกอย่างต่อเนื่อง ไปจนถึงไม่ได้เจอกับพระอาทิตย์ยาวนานถึง 1 เดือนต่อปีในช่วงฤดูหนาว
มันจึงทำให้ เฮนนิงสแวร์ สเตเดียม มีความสำคัญกับพวกเขามาก กับชีวิตภายใต้สภาพอากาศที่โหดร้ายและมันก็เป็นมาตั้งแต่ในอดีต
“ชาวเมืองได้ทำลานสเก็ตน้ำแข็งมาก่อนที่ตรงนี้ น่าจะเป็นช่วงปลายทศวรรษที่ 1950s โดยมีทัวร์นาเมนต์แข่งกัน” เอ็ดวาร์ดเซน กล่าว
เช่นกันกับในฤดูร้อน เมื่อสนามแห่งนี้ กลายเป็นแหล่งพบปะสำคัญของคนที่รักในเกมลูกหนัง ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาใช้บริการตลอด 24 ชั่วโมงในแต่ละวัน เนื่องจากพระอาทิตย์ไม่ตกดินในฤดูนี้
“มันสวยงามจริงๆ เพราะมีแสงตลอด 24 ชั่วโมง ใน 7 วัน” ซาราห์ แคสเปอร์เซน นักฟุตบอลท้องถิ่น กล่าวกับ FIFA
“หมายความว่าเด็กๆ สามารถอยู่ที่นี่ได้จนดึก และบางครั้งเราก็ออกจากบ้านตอนตี 2 เพื่อไปเล่นฟุตบอล”
ขณะที่คนที่ไม่ได้เล่นฟุตบอล ก็สามารถใช้สนามแห่งนี้ในฐานะแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ และการดื่มกาแฟ ไปพร้อมกับชมลูกหลานของพวกเขาเล่นฟุตบอล ก็เป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมที่สุด
“สนามถูกใช้มากในฤดูร้อน เกือบตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน” แรกนาร์ พัลส์สัน เจ้าของโรงแรมท้องถิ่นกล่าวกับ FIFA
“มันค่อนข้างสนุก เพราะผู้ใหญ่ก็มารวมตัวที่สนาม ดื่มกาแฟ และดูทีมแข่งกัน”
ทั้งนี้ แม้ว่า โลโฟเทน จะมีลีกภูมิภาค ซึ่งอยู่ในระดับดิวิชั่น 6 ของลีกนอร์เวย์ แต่ เฮนนิงสแวร์ สเตเดียม กลับไม่ได้ถูกใช้ในการแข่งขันอย่างเป็นทางการเหล่านี้
แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ยังเป็นสนามที่แฟนบอลน่ามาเยือนให้ได้สักครั้งในชีวิต เพราะแค่บรรยากาศ ก็อาจทำให้คุณอึ้งจนลืมหายใจ
“สำหรับผม การได้เล่นฟุตบอลที่นี่ ที่สนามในโลโฟเทน ผมคิดว่ามันคือสถานที่ที่เล่นฟุตบอลที่สวยงามที่สุดในโลก” เอ็ดวาร์ดเซน ทิ้งท้าย