จบลงไปอย่างเป็นทางการสำหรับ ฟุตบอลสโมสรโลก 2025 ที่ เชลซี จากอังกฤษ เป็นฝ่ายความแชมป์ไปครอง หลังเอาชนะ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 3-0 ในนัดชิงชนะเลิศ
ทั้งนี้ แม้ว่าการแข่งขันในครั้งนี้จะถูกวิจารณ์พอสมควร ไม่ว่าจะเป็นจำนวนที่นั่งที่ขายไม่ออกกว่า 1 ล้านใบ หรือการลงแข่งท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุ แต่สำหรับแฟนบอลของสโมสรที่เข้าร่วม โดยเฉพาะสโมสรนอกยุโรป อาจจะต่างออกไป
พวกเขาคิดเห็นกันอย่างไรกับฟุตบอลสโมสรโลกในปีนี้ ติดตามไปพร้อมกัน
วันที่ซาอุฯ เป็นหนึ่งเดียว
แม้ว่า ฟุตบอลสโมสรโลก 2025 จะเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ทีมจากเอเชีย ทำผลงานได้ไม่ดีนัก แต่ไม่ใช่สำหรับ อัล ฮิลาล เมื่อพวกเขาพวกเขาคือทีมเดียวจากทวีปแห่งนี้ ที่ทะลุเข้าสู่รอบเอาท์
แชมป์เอเอฟซี แชมเปียนลีกส์ 2021 ได้รับการจับตามองไปทั่วโลก หลังเสมอกับ เรอัล มาดริด 1-1 ในรอบแบ่งกลุ่ม ก่อนจะปราบ แมนฯ ซิตี้ ในช่วงต่อเวลาพิเศษของรอบ 16 ทีมสุดท้าย 4-3 ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศได้อย่างเหลือเชื่อ
และไม่ใช่ผลงานในสนามเท่านั้นที่ชาวซาอุดิอาระเบียต้องภาคภูมิใจ เมื่อเกมนัดดังกล่าว มียอดผู้ชมการถ่ายทอดสดสูงถึง 1.5 ล้านคน แม้จะเริ่มแข่งตอนตี 4 ตามเวลาของซาอุฯ
นอกจากนี้ จากการวิเคราะห์ของบริษัทจัดเรตติ้งสื่อในซาอุฯยังระบุว่า มีผู้ชมมากถึง 5.1 ล้านคนในประเทศที่ชมการแข่งขันคลับเวิลด์คัพ 2025 ซึ่งถ่ายทอดสดทั้งสิ้น 25 เกม ผ่านช่อง MBC Group
สำหรับเกมที่มีผู้ชมสูงสุดคือเกมที่ อัล ฮิลาล พบ เรอัล มาดริด ซึ่งมีผู้ชมผ่านหน้าจอมากถึง 2.2 ล้านคน เช่นกันกับเกมในรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่ทีมจากซาอุฯ เจอกับ ฟลูมิเนนเซ ที่แทบทุกบ้านต่างตื่นขึ้นมาดูเกมนี้

“แทบไม่มีที่ไหนที่ไม่เปิดเกมของ อัล ฮิลาล ถนนโล่งไปหมด และทุกคนต่างกำลังดูเกมนี้” ฟายัด คอนเทนท์ ครีเอเตอร์ วัย 25 ปี พูดถึงเกมรอบ 8 ทีมสุดท้าย
“ทางด่วนโล่งไปเลย มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในคืนวันศุกร์ แม้กระทั่งในช่วงรอมฎอน”
ขณะเดียวกัน สถานประกอบการณ์หลายแห่งยังช่วยกันออกโปรโมชั่นเพื่อรับกับกระแสนี้ เช่นเปิดคาเฟ่ พร้อมกับเก็บค่าเข้า เพื่อให้เหล่าแฟนมาร่วมตัวกันเชียร์ทีมจากบ้านเกิดพวกเขา
“ทั้งแฟนบอลและสต้าฟ ต่างสวมเสื้อ อัล ฮิลาล กันหมด” ฟายัดกล่าว
“ที่ยอดเยี่ยมที่สุดคือเกมกับ แมนฯ ซิตี้ เกมจบตอน 7 โมงเช้า จากนั้นผู้คนก็ออกมาตามท้องถนน พากันบีบแตร ไม่มีใครอยากนอนต่อ เหมือนอดรีนาลีนกำลังหลั่ง”
“มันสุดยอดมาก เป็นช่วงเวลา 45-75 นาทีที่บ้าคลั่งที่สุดในชีวิตของพวกเรา”
ยิ่งกว่าฟุตบอลโลก
ด้วยความที่มีความรักในฟุตบอลอยู่ในสายเลือด แฟนบอลจากบราซิล ก็รู้สึกเอ็นจอยไปกับทัวร์นาเมนต์นี้ไม่น้อย แม้ว่าจะไม่ได้เดินทางตามมาเชียร์ถึงสหรัฐฯ ก็ตาม
เพราะที่บ้านเกิดของพวกเขา มีการจัดให้ชมที่ชายหาดโคปาคาบานา เมืองริโอ เด จาเนโร ในทุกเกมที่สโมสรจากบราซิลลงแข่ง ซึ่งมีโอกาสได้ต้อนรับผู้ชมกว่า 100,000 คน ตลอดทัวร์นาเมนต์
“ทุกคนต่างร้องเพลงประจำสนาม ราวกับว่าเราอยู่ที่สนามจริง” บรูโน สเตฟาโน แฟนฟลูมิเนนเซน อธิบาย
“แม้ว่าคุณจะไม่สามารถอยู่ที่นั่น (สหรัฐฯ) เพราะค่าใช้จ่ายแพงเกินไป หรือต้องทำงาน แต่ก็สามารถสัมผัสบรรยากาศใกล้เคียงกันด้วยการมางานนี้”

สำหรับเกมที่มีผู้ชมสูงสุด คือนัดที่ ฟลาเมงโก้ พบกับ บาเยิร์น มิวนิค ที่มีผู้ชมมาดูเกมถึง 10,000 คน จนสถานที่จัดงานคับแคบไปเลย
มันแสดงให้เห็นถึงความบ้าบอลของชาวบราซิล ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังเป็นชาติที่ไปชมเกมฟุตบอลสโมสรโลกถึงสหรัฐฯ มากที่สุด เมื่อเทียบกับแฟนบอลชาติอื่นที่เข้าร่วม
“มันเหมือนกับฟุตบอลโลก ผมสนใจฟลูมิเนนเซ มากกว่าทีมชาติบราซิล ดังนั้นมันจึงดีกว่าที่เราได้เล่นสโมสรโลก” บรูโน กล่าว
“ทุกคนบอกว่ามันน่าเสียดายที่มันจบลง เพราะว่าพวกเขาดูเกม 4 แมตช์ต่อวัน แม้กระทั่งเกมระหว่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กับ อุลซาน ฮุนได พวกเราก็ดู เพราะว่าเราชอบฟุตบอล”
ไม่ดีไม่แย่
สำหรับ แอฟริกา ความต่างของเวลา อาจจะเป็นอุปสรรคในการชมคลับเวิลด์คัพรอบนี้ หนึ่งในนั้นคือแอฟริกาใต้ ที่มี มาเมโลดี ซันดาวน์ส แชมป์ตลอดกาล เป็นตัวแทนเข้าร่วม
“บางเกมเริ่มแข่งตอนเที่ยงคืน หรือไม่ก็ตี 3” โม อัลลี นักข่าวที่ประจำอยู่ที่เมืองเคปทาวน์กล่าวกับ BBC
“ทัวร์นาเมนต์ ยังถูกบดบังจากการที่ทีมชาติแอฟริกาใต้ คว้าแชมป์คริกเก็ตโลก และคุณยังมีการแข่งขันรักบี้ของทีมชาติ ที่จะเจอกับ บาบาเรียนส์ เอฟซี และทีมชาติอิตาลีกอีก”
“แต่ผมขอบอกอะไรอย่างหนึ่ง จากผลงานของ ซันดาวน์ส ในเกมกับ ดอร์ทมุนด์ และฟลูมิเนนเซ ได้ทำให้เราภาคภูมิใจในตัวพวกเขามาก ขอบคุณที่เกมเหล่านั้นเตะในเวลาที่เหมาะสมตามเวลาของเรา”

ส่วนอีกฟากหนึ่งของแอฟริกา อย่างโมร็อคโก พวกเขายังชมการแข่งขันต่อไป แม้ว่า วีดัด คาซาบลังกา ของพวกเขา จะจอดป้ายตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มก็ตาม
“ผู้คนยังดูต่อไป แต่พวกเขาก็ติดตาม อัชราม ฮาคิมี และ ยาสซีน โบโน เป็นหลัก เนื่องจาก บราฮิม ดิอาซ ไม่ค่อยได้ลงเล่นมากนักให้ เรอัล มาดริด” อามีน เอล อัมรี นักข่าวชาวโมร็อคโกกล่าว
แต่ที่แหวกแนวที่สุดคือ ไนจีเรีย ที่แฟนบอลของพวกเขาติดตามทัวร์นาเมนต์นี้ เพราะการพนัน เนื่องจากเป็นช่วงที่ฟุตบอลยุโรปกำลังปิดฤดูกาลพอดี
“ปฏิกริยาของแฟนบอลค่อนข้างน่าสนใจ เนื่องจากมีการพนันอยู่มากมายที่ไนจีเรีย แฟนบอลจึงรู้จักทีมส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมการแข่งขัน โดยเฉพาะทีมที่ไม่ได้อยู่ในยุโรป” บาบาทุนเด โคอิกี้ คอมเมนเตเตอร์ด้านกีฬาของไนจีเรีย อธิบาย
“เนื่องจากฤดูกาลของฟุตบอลยุโรปได้ปิดฉากลง ทัวร์นาเมนต์นี้จึงกลายเป็นตัวเลือกหลักเพื่อเล่นพนัน เท่าที่ผมรู้ หลายคนติดตามการแข่งขันนี้โดยมีนี่เป็นเหตุผลหลัก”
ราวกับเทพนิยาย
สำหรับผู้เข้าร่วม การต้องปิดฉากทัวร์นาเมนต์ด้วยความพ่ายแพ้ 3 เกมรวด อาจจะเป็นสิ่งที่ไม่น่าจดจำ แต่ไม่ใช่สำหรับ แฟน อุราวะ เรดส์ ที่แค่ได้มายืนอยู่ในเวทีแห่งนี้ พวกเขาก็ภูมิใจแล้ว
“ในหมู่แฟนบอล มันมีส่วนประกอบของความภาคภูมิใจ ที่ทีมของพวกเขาได้เข้ามาเล่นในเวทีระดับโลก ผู้เล่นก็เช่นกัน พวกเขาต่างตื่นเต้นที่ได้เล่นในเวทีที่ต่างออกไป” ฌอน แคร์โรลล์ นักข่าวชาวอังกฤษ ที่เชี่ยวชาญฟุตบอลญี่ปุ่นบอกกับ BBC
“มีแฟนบอลของเรดส์ อยู่ที่นั่นมากเลย พวกเขาก็น่าจะได้มาดูเกมเช่นกัน แต่ผมไม่คิดว่าจะมีคนตื่นตี 4 มาดูเกมระหว่าง เรอัล มาดริด และ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เยอะนักหรอก เพราะมันเป็นเวลาของ แชมเปียนส์ลีก ที่เจอกันทุกปีอยู่แล้ว”

ส่วน นิวซีแลนด์ ซึ่งเกมส่วนใหญ่เตะตรงกับช่วงเวลากลางวันของที่นี่ ก็ให้ความสนใจกับ คลับเวิลด์คัพไม่น้อย โดยเฉพาะหลังจากที่ โอคแลนด์ ซิตี้ ตัวแทนของพวกเขาถ่ายต่อ บาเยิร์น มิวนิค 10-0
“มันมีความอยากรู้อยู่บ้าง เนื่องจากพวกเขาเป็นทีมสมัครเล่น แต่หลายคนนอกวงการฟุตบอลก็คงไม่เคยได้ยินชื่อพวกเขามาก่อน” ไมเคิล เบอร์เกส นักข่าวชาวนิวซีแลนด์กล่าว
“หลังจาก 10-0 ทุกคนก็เริ่มสนใจ แม้กระทั่งผู้รับเหมาของผม ที่ยอมรับว่าไม่รู้เรื่องฟุตบอลมาก่อน มันกลายเป็นเรื่องที่พูดกันไปทั่วเมืองตลอดทั้งวัน หรือหลังจากนั้น เพียงเพราะสกอร์ที่เหลือเชื่อ”
“และมันก็เป็นที่สนใจใน 2 เกมหลังจากนั้น รวมถึงการที่เสมอ 1-1 กับโบคา ที่กลายเป็นเทพนิยายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอีกด้วย”
อย่างไรก็ดี ทัวร์นาเมนต์นี้ กลับไม่ค่อยได้รับความสนใจที่อินเดีย หนึ่งในชาติบ้าบอลเป็นอันดับต้นๆของโลก ที่ไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่มีตัวแทนเข้าร่วม แต่เนื่องจากไม่มีทีมดังที่พวกเขาชอบให้ติดตาม
“เหตุผลว่าทำไมจึงไม่มีเสียงตอบรับอย่างล้นหลามที่นี่ ก็เนื่องมาจากไม่มีทีมอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล อาร์เซนอล หรือ บาร์เซโลนา ลงเล่น ทีมเหล่านี้มีแฟนบอลจำนวนมากที่นี่” สังหะปริโย มันดาล แฟนปีศาจแดงชาวอินเดีย ให้คำแนะนำ
“แฟนเหล่านี้ไม่ได้อยากดูเกมของสโมสรอเมริกาใต้หรือเอเชีย แต่พวกเขาจะทำทุกอย่างเพื่อทีมรัก”
“ผมคิดว่า บางสโมสรควรเชิญเข้ามา ส่วนบางทีมควรผ่านรอบคัดเลือก”
สิ่งหล่านี้คือฟีดแบ็คที่แฟนบอลทั่วโลก มีต่อทัวร์นาเมนต์นี้ และหากมองในมุมกว้างแล้ว มันก็เป็นเสียงตอบรับที่ดีพอสมควร และคุ้มค่าที่จะจัดต่อไปในอนาคต
แต่ไม่รู้ว่าสโมสรที่เข้าร่วมจะมองเรื่องนี้อย่างไร เพราะแน่นอนว่ามันคือจำนวนนัดที่ต้องลงเล่นมากขึ้น แถมยังมีเวลาพักผ่อนน้อยกว่าเพื่อนร่วมลีก แม้ว่าจะแลกมากับเม็ดเงินจำนวนมหาศาลก็ตาม
และฤดูกาล 2025/26 ที่จะถึงนี้ ก็คงจะเป็นคำตอบสำหรับพวกเขาว่าคุ้มค่าหรือไม่ ในการร่วมชิงชัยในครั้งนี้