74:03 นาทีเปลี่ยนชีวิต! เจมี่ วาร์ดี้ กับโบนัสทีมชาติ 100,000 ปอนด์ ที่เกือบไม่ได้จับ

Nopphasin Kulabburi

74:03 นาทีเปลี่ยนชีวิต!  เจมี่ วาร์ดี้ กับโบนัสทีมชาติ 100,000 ปอนด์ ที่เกือบไม่ได้จับ image

ในโลกของฟุตบอลอาชีพ มีไม่กี่คนที่จะเดินทางจาก โรงงานผลิตอุปกรณ์แพทย์ มาถึงการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก แต่ชื่อของ เจมี่ วาร์ดี้  คือหนึ่งในนั้น

ชายจากเชฟฟิลด์ผู้นี้ถูกปล่อยตัวจากทีมในฝันอย่าง Sheffield Wednesday ตั้งแต่อายุเพียง 16 ปี ก่อนจะกลายมาเป็น

“พนักงานกินค่าแรงขั้นต่ำ + กองหน้ากึ่งอาชีพ” ที่ไม่มีใครรู้จัก และต้องใช้เวลานานกว่าทศวรรษกว่าจะได้ใส่เสื้อทีมชาติอังกฤษ

แต่ใครจะเชื่อว่า... การลงสนามครั้งแรกให้ทีมชาติของเขาในปี 2015  แม้จะแค่ 15 นาทีสุดท้ายของเกมกระชับมิตร 

กลับกลายเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เขาเกือบ พลาดเงินโบนัส 100,000 ปอนด์ จากสัญญาที่ตัวเองแทบไม่รู้ว่ามีเงื่อนไขอะไรซ่อนอยู่บ้าง

74:03 ถ้าช้ากว่านี้อาจจะพลาดเงินก้อนโต

ย้อนกลับไปก่อนปี 2012 วาร์ดี้ยังคงค้าแข้งอยู่ในลีกระดับล่างอย่าง Stockbridge Park Steels, Halifax Town, และ Fleetwood Town ซึ่งเงินค่าจ้างที่เขาได้รับขณะนั้นอยู่ที่ราวๆ 800 ปอนด์ต่อสัปดาห์ เท่านั้น

ทายผลฟุตบอลสด คลิกที่นี่

แต่หลังจากที่ เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมในระดับแชมเปี้ยนชิพ คว้าตัวเขาไปร่วมทีมในปี 2012 เส้นทางชีวิตของวาร์ดี้ก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

และในปี 2015  วาร์ดี้ก็ได้รับโอกาสสำคัญที่สุดในชีวิต เมื่อถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษครั้งแรกในวัย 28 ปี

นาทีที่ 74:03 เกมอุ่นเครื่องระหว่าง อังกฤษ กับ ไอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2015 วาร์ดี้ถูกเปลี่ยนตัวลงสนามในช่วงท้ายเกม แทนที่ของ เวย์น รูนี่ย์ ฮีโร่ของชาติในขณะนั้นและแม้เกมจะจบลงด้วยผลเสมอ 0-0 แต่สำหรับวาร์ดี้ มันคือจุดเริ่มต้นของอีกโลกหนึ่ง

"ตอนนั้นผมแค่แห้งคออยู่ริมสนาม รอเสียงนกหวีดให้ลงเล่น... ไม่ได้คิดอะไรเลยว่ามันคือ ‘วินาทีเปลี่ยนชีวิต’"
 เจมี่ วาร์ดี้ กล่าว

วินาทีนั้นคือ นาทีที่ 74 และ 3 วินาที ซึ่งกลายเป็นตัวเลขที่มี "ค่ามากกว่าที่เขาคิด"

สัญญาเล็กๆ ที่มาพร้อมโบนัสหลักแสน

วาร์ดี้เล่าไว้ในหนังสืออัตชีวประวัติ "Jamie Vardy: From Nowhere, My Story” ว่าก่อนหน้านั้น เอเยนต์ส่วนตัวของเขา ได้ขอให้ใส่เงื่อนไขหนึ่งลงไปในสัญญากับเลสเตอร์ ซึ่งระบุว่า…

“หากวาร์ดี้ติดทีมชาติอังกฤษ และได้ ‘ลงเล่นเป็นตัวจริง’ หรือ ‘ถูกเปลี่ยนตัวลงสนามก่อนนาทีที่ 75’ เขาจะได้รับโบนัสพิเศษมูลค่า 100,000 ปอนด์”

นั่นคือข้อแม้ที่สโมสรใส่ไว้เพื่อ ป้องกันการจ่ายเงินโดยไม่จำเป็น หากนักเตะได้ลงสนามแค่ช่วงท้ายเกมในนาทีที่ 89

และแม้จะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่วินาทีที่วาร์ดี้ได้ลงจริงคือ 74:03 — ซึ่งหมายความว่าเขา มีสิทธิ์รับโบนัสตามเงื่อนไข แต่ก็ทำให้เกิด ข้อถกเถียงกับสโมสรเล็กน้อย เพราะบางคนตีความว่า "นาทีที่ 75" ก็คือ “หลัง 74:00” ไปแล้ว

โชคดีที่เอเยนต์ของเขา ถ่ายรูปจอทีวีที่แสดงนาฬิกาเกมในวินาทีนั้นไว้ทัน และส่งไปเป็นหลักฐานให้กับทีม รวมถึงส่งให้วาร์ดี้เก็บไว้ยืนยันอีกแรง

“เอเยนต์ของผมส่งภาพมาให้ พร้อมกับเวลาเป๊ะๆ บนจอ — 74:03 นาที... สุดท้ายเรื่องมันก็เคลียร์ได้ และผมได้รับเงินก้อนนั้นจริงๆ”  เจมี่ วาร์ดี้ กล่าว

แม้มันจะดูเหมือนเรื่องโชคดีของวาร์ดี้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนอะไรบางอย่างที่สำคัญ  โดยเฉพาะในยุคที่นักเตะหลายคนยังไม่เข้าใจเงื่อนไขในสัญญาตนเอง

"โบนัส", "คลอส", หรือแม้แต่ "นาทีที่เปลี่ยนชีวิต" อาจอยู่ในบรรทัดเล็กๆ ที่ถูกมองข้าม

และในกรณีของวาร์ดี้ นาทีที่ 74:03 ไม่ได้แค่ทำให้เขาได้โบนัส แต่ยังเป็นการ เปิดประตูสู่การติดทีมชาติอย่างต่อเนื่อง และก้าวสู่การเป็นตำนานของเลสเตอร์ในปีถัดมา

บทความที่เกี่ยวข้อง

Nopphasin Kulabburi

นักเขียน Sporting News Thailand ที่ติดตามทั้งกีฬาฟุตบอล, บาสเก็ตบอล รวมถึงแวดวงอีสปอร์ต